ทำความรู้จักระบบบำบัดน้ำเสียแบบเจาะลึก มีแบบไหนบ้าง หลักการทำงานเป็นอย่างไร?
การบำบัดน้ำเสียเป็นกระบวนการที่สำคัญอย่างมากสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมและชุมชนในปัจจุบัน เพื่อให้น้ำเสียมีคุณภาพดีพร้อมที่จะถูกปล่อยในแหล่งรับน้ำเสีย หากไม่มีการบำบัดอย่างเหมาะสม อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ได้ในภายหลัง
การบำบัดน้ำเสียคืออะไร?
การบำบัดน้ำเสีย คือ การใช้กระบวนการหรือการใช้เทคโนโลยีและวิธีต่าง ๆ เพื่อทำความสะอาดและปรับปรุงคุณภาพของน้ำเสียที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมต่าง ๆ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม การใช้น้ำในชีวิตประจำวัน และกิจกรรมอื่น ๆ เพื่อ ลดปริมาณสารหนาแน่นและสารตกตะกอนที่ปนเปื้อนอยู่ในน้ำเสีย ทำให้น้ำที่ถูกปล่อยออกมาสู่สิ่งแวดล้อมมีคุณภาพที่เหมาะสมและปลอดภัยต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
หากคุณสนใจวิเคราะห์น้ำเสีย ห้องแลปปฏิบัติการ บริษัท เอส เอส ซี ออยล์ จำกัด เราให้บริการรับตรวจวิเคราะห์น้ำเสีย รับประกันผลวิเคราะห์แม่นยำ บริการรวดเร็ว ได้มาตรฐาน เรายินดีให้คำปรึกษาครับ
การบำบัดน้ำเสียมีกี่แบบ? เลือกแบบไหนดี?
ระบบบำบัดน้ำเสีย มีหลากหลายประเภทให้เลือก แล้วเราจะเลือกแบบไหนดีที่สุด วันนี้เรามาเจาะลึกระบบแต่ละประเภทกัน
1. ระบบบำบัดน้ำเสียแบบบ่อปรับเสถียร (Stabilization Pond)
ระบบบำบัดน้ำเสียแบบบ่อปรับเสถียร (Stabilization Pond) คือวิธีการที่นำน้ำเสียไปใส่ในถังหรือบ่อขนาดใหญ่ เพื่อให้จุลินทรีย์และธรรมชาติช่วยย่อยสลายสารอินทรีย์ โดยให้น้ำเสียอยู่ในระยะเวลา และชะลอตัว จากนั้นเพิ่มอากาศเข้าไปช่วยกระตุ้นกระบวนการ ตอนท้ายน้ำเสียที่บ่อปรับเสถียรจะผ่านถังตกตะกอนเพื่อแยกสารตกตะกอนกับน้ำ เป็นวิธีที่มีต้นทุนต่ำและมีประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสียได้ดี
ข้อดี:
ต้นทุนต่ำ: ระบบนี้มีต้นทุนการติดตั้งและดูแลรักษาที่ต่ำกว่าระบบบำบัดอื่น ๆ มาก ทำให้เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับกลุ่มที่มีงบประมาณจำกัด
เหมาะสำหรับชุมชนเล็กๆ: ระบบนี้เหมาะสำหรับการใช้งานในชุมชนเล็ก ๆ หรือบริเวณที่มีพื้นที่ว่างพอสมควร เนื่องจากต้องการพื้นที่ในการสร้างบ่อหรือถัง
ไม่ต้องการเทคโนโลยีซับซ้อน: การดำเนินการของระบบนี้ใช้กระบวนการธรรมชาติและความช้าๆ ของน้ำในการย่อยสลายสารอินทรีย์ ไม่ต้องใช้เครื่องมือหรือเทคโนโลยีซับซ้อน
ข้อเสีย:
ต้องการพื้นที่: ระบบนี้ต้องใช้พื้นที่ในการสร้างบ่อหรือถังในปริมาณที่มีขนาดใหญ่กว่าระบบบำบัดอื่น ๆ เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการบำบัด.
เชื่อมต่อกับสภาพแวดล้อม: ระบบบำบัดแบบนี้อาจถูกผิดปกติหรือมีประสิทธิภาพลดลงในสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ เช่น สภาวะฝนตกหนัก หรืออุณหภูมิสูง.
ประสิทธิภาพของการบำบัดขึ้นอยู่กับเชื้อจุลินทรีย์: การบำบัดในระบบนี้อาศัยจุลินทรีย์และกระบวนการธรรมชาติ ทำให้ประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับสภาวะของเชื้อจุลินทรีย์และสภาวะของน้ำในบ่อ.
2. ระบบบำบัดน้ำเสียแบบบ่อเติมอากาศ (Aerated Lagoon)
ระบบบำบัดน้ำเสียแบบบ่อเติมอากาศ (Aerated Lagoon) คือ กระบวนการบำบัดน้ำเสียที่ใช้การเติมอากาศในบ่อเพื่อส่งเสริมกระบวนการชีวภาพในการย่อยสลายสารอินทรีย์ที่มีในน้ำเสีย ระบบนี้ได้ชื่อมาจากกระบวนการที่เรียกว่า “เติมอากาศ” หรือ “Aeration” ซึ่งมีหน้าที่เพิ่มปริมาณออกซิเจนในน้ำเสีย เพื่อให้จุลินทรีย์ที่ทำหน้าที่ย่อยสลายสารอินทรีย์สามารถเจริญเติบโตและทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ข้อดีของระบบบำบัดน้ำเสียแบบบ่อเติมอากาศ:
ประสิทธิภาพสูง: การเติมอากาศช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการย่อยสลายสารอินทรีย์ที่มีในน้ำเสีย ทำให้การบำบัดมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากขึ้น เชื้อจุลินทรีย์สามารถทำหน้าที่ได้ดีกว่าในสภาวะที่มีออกซิเจนเพียงพอ
สามารถบำบัดสารอินทรีย์ที่ซับซ้อนได้: ระบบนี้สามารถบำบัดน้ำเสียที่มีสารอินทรีย์ที่ซับซ้อนและสกปรกค่อนข้างมาก เช่น น้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม
ควบคุมง่าย: การบำรุงรักษาและควบคุมระบบนี้ง่าย เนื่องจากไม่ต้องมีเครื่องมือหรือเทคโนโลยีที่ซับซ้อน เพียงแต่ต้องควบคุมระดับอากาศที่เติมเข้าไปในบ่อ
ข้อเสียของระบบบำบัดน้ำเสียแบบบ่อเติมอากาศ:
ต้องการพื้นที่: ระบบนี้ต้องใช้พื้นที่ในการสร้างบ่อที่ใหญ่พอเพื่อการเติมอากาศและการทำงานของเชื้อจุลินทรีย์ ซึ่งอาจจำเป็นต้องใช้พื้นที่มากกว่าระบบอื่น
ค่าใช้จ่ายสูง: การเติมอากาศต้องใช้พลังงานเพื่อทำให้ออกซิเจนอยู่ในน้ำเสีย ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในด้านพลังงาน
อาจเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์: การบำบัดที่มีการเติมอากาศอาจทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์จากกระบวนการย่อยสลายสารอินทรีย์ที่อาจเป็นกลิ่นหรือกลิ่นแก๊สที่ไม่พึงประสงค์
3. ระบบบำบัดน้ำเสียแบบบึงประดิษฐ์ (Constructed Wetland)
ระบบบำบัดน้ำเสียแบบบึงประดิษฐ์ (Constructed Wetland) เป็นกระบวนการบำบัดน้ำเสียที่ใช้ความช่วยเหลือของระบบนิเวศทางธรรมชาติในการทำความสะอาดน้ำ เป็นกระบวนการที่ผลิตจากการจำลองและสร้างขึ้นของพื้นที่ชั้นน้ำที่มีการเจริญเติบโตของพืชน้ำในพื้นที่เปียกชื้น เช่น ธูปฤาษี กกกลม พุทธรักษา บอน ตาลปัตฤาษี ซึ่งจะช่วยในกระบวนการย่อยสลายสารอินทรีย์และนักเรือในน้ำเสีย ทำให้น้ำเสียมีคุณภาพดีขึ้น
ข้อดีของระบบบำบัดน้ำเสียแบบบึงประดิษฐ์:
ประหยัด : ระบบนี้ใช้ระบบนิเวศทางธรรมชาติเพื่อกระตุ้นกระบวนการทางชีวภาพในการบำบัดน้ำ ไม่ต้องเสียค่าเติมอากาศหรือสารเคมี
ลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา: พืชน้ำในบ่อบำบัดสามารถช่วยในกระบวนการบำบัดน้ำเสีย ไม่ต้องใช้เครื่องจักรใดๆเพิ่มเติม ทำให้ลดความต้องการในการดูแลรักษาและการทำความสะอาดของระบบ
ข้อเสียของระบบบำบัดน้ำเสียแบบบึงประดิษฐ์:
ความสามารถในการบำบัดจำกัด: ระบบนี้อาจไม่เหมาะสมกับการบำบัดน้ำเสียที่มีสารพิษหรือสารอันตรายสูง เนื่องจากมีความสามารถในการบำบัดน้ำจำกัด ไม่สามารถทน Shock load ได้
ความต้องการพื้นที่: ระบบบำบัดแบบบึงประดิษฐ์ต้องใช้พื้นที่ที่กว้างขวาง เมื่อเทียบกับระบบอื่นๆ เพื่อให้พืชน้ำเจริญเติบโตได้อย่างเหมาะสม
4. ระบบบำบัดน้ำเสียแบบแอกทิเวเต็ดสลัดจ์ (Activated Sludge Process)
ระบบบำบัดน้ำเสียแบบแอกทิเวเต็ดสลัดจ์ (Activated Sludge Process) เป็นกระบวนการทางชีวภาพที่ใช้จุลินทรีย์เพื่อย่อยสลายและกำจัดสารอินทรีย์ในน้ำเสีย โดยใช้การเติมอากาศให้แก่จุลินทรีย์เพื่อให้พื้นที่ในระบบมีออกซิเจนเพียงพอสำหรับกระบวนการทางชีวภาพเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งจุลินทรีย์จะทำหน้าที่ย่อยสลายสารอินทรีย์ในน้ำเสียให้เป็นสารที่ไม่อันตรายและปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไปในรูปของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และปล่อยน้ำที่บำบัดแล้วในสภาวะที่สามารถปล่อยลงสู่แหล่งน้ำเสียได้
ข้อดีของระบบบำบัดน้ำเสียแบบแอกทิเวเต็ดสลัดจ์:
ประสิทธิภาพสูง: ระบบนี้มีความสามารถในการย่อยสลายสารอินทรีย์ในน้ำเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถบำบัดน้ำเสียที่มีความซับซ้อนได้
ขนาดเล็ก: ระบบแอกทิเวเต็ดสลัดจ์สามารถออกแบบให้เป็นขนาดเล็กเพื่อให้เหมาะสมกับพื้นที่ที่จำกัด และสามารถติดตั้งในพื้นที่ที่มีขนาดน้อยได้
ข้อเสียของระบบบำบัดน้ำเสียแบบแอกทิเวเต็ดสลัดจ์:
ความต้องการการดูแลรักษา: ระบบนี้ต้องการการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากจุลินทรีย์ต้องมีเงื่อนไขที่เหมาะสมเพื่อให้กระบวนการทำงานได้ดี
ความไวต่อการเปลี่ยนแปลง: ระบบอาจต้องใช้เวลาสักระยะในการปรับตัวเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมน้ำเสีย หรืออาจจะต้องระวัง shock load ซึ่งจะทำให้ระบบ AS ล่มได้
5. ระบบบำบัดน้ำเสียแบบแผ่นจานหมุนชีวภาพ (Rotating Biological Contactor; RBC)
ระบบบำบัดน้ำเสียแบบแผ่นจานหมุนชีวภาพ (Rotating Biological Contactor; RBC) เป็นกระบวนการทางชีวภาพที่ใช้แผ่นจานหมุนเพื่อเพิ่มพื้นที่สำหรับการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ช่วยย่อยสลายและกำจัดสารอินทรีย์ในน้ำเสีย แผ่นจานจะถูกจับติดจุลินทรีย์ ซึ่งจะทำหน้าที่ย่อยสลายสารอินทรีย์ในน้ำเสียเมื่อแผ่นจานหมุน โดยมีการเติมอากาศให้แก่จุลินทรีย์เพื่อให้เกิดกระบวนการทางชีวภาพในระบบ
ข้อดีของระบบบำบัดน้ำเสียแบบแผ่นจานหมุนชีวภาพ:
ประสิทธิภาพในการบำบัดสูง: ระบบนี้มีพื้นที่ผิวการติดแน่นของแผ่นจานเยอะ ทำให้มีพื้นที่สำหรับจุลินทรีย์ในการทำงานมากขึ้น ทำให้กระบวนการย่อยสลายและกำจัดสารอินทรีย์เป็นอย่างดี
การบำรุงรักษาง่าย: การดูแลรักษาแผ่นจานหมุนเป็นไปอย่างง่าย และไม่ต้องการความร่วมมือของคนเข้าไปในระบบบำบัด
สามารถทำงานในพื้นที่จำกัด: ระบบนี้เหมาะสำหรับการใช้ในพื้นที่ที่มีขนาดจำกัด เนื่องจากไม่ต้องใช้พื้นที่เยอะเท่าระบบอื่นๆ
ข้อเสียของระบบบำบัดน้ำเสียแบบแผ่นจานหมุนชีวภาพ:
ความต้องการการบำรุงรักษา: ถึงแม้ว่าระบบนี้จะง่ายต่อการดูแลรักษา แต่การบำรุงรักษาเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แผ่นจานหมุนทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ
เสียงและการสั่นสะเทือน: การหมุนของแผ่นจานอาจก่อให้เกิดเสียงและการสั่นสะเทือน ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและผู้อยู่อาศัยใกล้เคียง
ต้นทุนในการติดตั้งและบำรุงรักษา: การติดตั้งและบำรุงรักษาระบบนี้อาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าระบบบำบัดอื่นๆ แต่ก็เหมาะสำหรับคนที่งบประมาณไม่ใช่ปัญหา แต่มีพื้นที่ที่จำกัด
6. ระบบบำบัดน้ำเสียแบบคลองวนเวียน (Oxidation Ditch ; OD)
ระบบบำบัดน้ำเสียแบบคลองวนเวียน (Oxidation Ditch ; OD) เป็นกระบวนการที่นิยมใช้ในการบำบัดน้ำเสีย เนื่องจากมีความสามารถในการควบคุมและดูแลง่าย มันเป็นระบบที่มีความคล้ายคลึงกับกระบวนการแอกทิเวเต็ดสลัดจ์ (Activated Sludge Process) แต่มีการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ในระบบคลองวนเวียน ถังเติมอากาศถูกออกแบบให้มีรูปแบบคลองหรือคูที่เรียงตัวเป็นวงรี ทำให้น้ำสามารถหมุนเวียนไปมาได้ น้ำเสียในคลองวนเวียนจะมีแบคทีเรียและจุลินทรีย์ชนิดอื่นที่ทำหน้าที่ย่อยสลายและย่อยสลายสารอินทรีย์ ระบบนี้ใช้จุลินทรีย์ที่ทำงานในสภาวะแอโรบิก (Aerobic) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการย่อยสลายสารอินทรีย์
ข้อดีของระบบบำบัดน้ำเสียแบบคลองวนเวียน:
ประสิทธิภาพสูง: ระบบนี้มีพื้นที่ของคลองที่มีการเวียนเคลื่อนน้ำที่กว้าง ทำให้มีเวลาการติดต่อระหว่างน้ำเสียและจุลินทรีย์มากขึ้น ทำให้กระบวนการย่อยสลายและกำจัดสารอินทรีย์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
สามารถบำบัดไนโตรเจนได้: ระบบนี้มีความสามารถในการบำบัดไนโตรเจนในน้ำเสียได้ดี ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในสถานที่ที่ต้องการการควบคุมระดับไนโตรเจน
การบำรุงรักษาง่าย: ระบบคลองวนเวียนไม่ต้องการการบำรุงรักษาที่ซับซ้อนมาก และสามารถดูแลรักษาได้ง่าย
ข้อเสียของระบบบำบัดน้ำเสียแบบคลองวนเวียน:
พื้นที่ในการติดตั้ง: ระบบคลองวนเวียนอาจต้องการพื้นที่ในการติดตั้งมากกว่าระบบบำบัดอื่น ทำให้ไม่เหมาะสำหรับพื้นที่จำกัด
ต้นทุน: การติดตั้งและบำรุงรักษาระบบนี้อาจมีต้นทุนสูงกว่าระบบอื่น ๆ
ห้องแลปปฏิบัติการ บริษัท เอส เอส ซี ออยล์ จำกัด เราให้บริการรับวิเคราะห์น้ำ ตรวจวิเคราะห์น้ำเสีย รับตรวจคุณภาพน้ำดื่ม ค่าตรวจวิเคราะห์น้ำราคาไม่แพงอย่างที่คิด รับประกันผลวิเคราะห์แม่นยำ บริการรวดเร็ว ได้มาตรฐาน
หากคุณยังไม่แน่ใจว่าต้องส่งน้ำตรวจที่ไหนดี? หรือต้องตรวจพารามิเตอร์อะไรบ้าง บริษัทรับตรวจวิเคราะห์น้ำ เรายินดีให้คำปรึกษาครับ
สรุป
กระบวนการบำบัดน้ำเสียประกอบด้วยขั้นตอนต่าง ๆ ที่เป้าหมายที่จะกำจัดสารอันตรายและสิ่งแขวนลอยที่ไม่พึงประสงค์ออกจากน้ำเสีย โดยจะใช้วิธีต่าง ๆ เช่น กระบวนการกายภาพ เช่น กรอง เติมอากาศ และตกตะกอน รวมถึงกระบวนการชีวภาพที่ใช้จุลินทรีย์และจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในการย่อยสลายสารอินทรีย์ ส่วนกระบวนการเคมีจะใช้สารเคมีเพื่อช่วยในการตรึงสารพิษและสารตกตะกอน เพื่อทำให้สามารถกำจัดได้ง่ายขึ้น
ระบบบำบัดน้ำเสียเป็นกระบวนการที่สำคัญสำหรับการรักษาคุณภาพน้ำในโรงงานและชุมชน มีหลายวิธีในการบำบัดน้ำเสีย แต่เลือกใช้วิธีใดขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและความเหมาะสมของแต่ละสถานการณ์
บทความน่ารู้เพิ่มเติม
การจัดการของเสียจากห้องปฏิบัติการ ทำอย่างไรบ้าง?
การจัดการของเสียจากห้องปฏิบัติการจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและความยั่งยืน ควบคู่กับการปฏิบัติตามกฎระเบียบและมาตรฐานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วันนี้เราจะมายกตัวอย่างวิธีการจัดการของเสียในแต่ละชนิดกัน
กระดาษลิตมัส (Litmus Paper) คืออะไร? ใช้งานอย่างไร?
กระดาษลิตมัส (Litmus Paper) เป็นเครื่องมือทางเคมีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการทดสอบความเป็นกรด-เบสของสารละลาย กระดาษลิตมัสมีบทบาทสำคัญในการทำงานในห้องปฏิบัติการ
ปฏิกิริยาออกซิเดชัน (Oxidation Reaction) คืออะไร?
ปฏิกิริยาออกซิเดชัน (Oxidation Reaction) ปฏิกิริยานี้เกี่ยวข้องกับการสูญเสียอิเล็กตรอนของสารหนึ่ง ซึ่งส่งผลให้สารอีกตัวหนึ่งได้รับอิเล็กตรอนและทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีอย่างต่อเนื่อง
วิธีการเช็กคุณภาพน้ำดื่มด้วยตัวเองเบื้องต้น
น้ำดื่มเป็นสิ่งสำคัญต่อการดำรงชีวิตของเรา เราต้องแน่ใจว่าน้ำที่เราดื่มนั้นสะอาดและปลอดภัยต่อสุขภาพ การตรวจสอบคุณภาพน้ำดื่มเบื้องต้นสามารถทำได้ด้วยตัวเองโดยใช้วิธีง่าย ๆ ต่อไปนี้
วิเคราะห์คุณภาพน้ำดื่ม (Drinking Water Analysis)
การตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำดื่ม ไม่ว่าจะเป็นน้ำดื่มจากขวดบรรจุ หรือว่าน้ำประปาที่สามารถนำมาดื่มได้ เพื่อดูคุณสมบัติทางกายภาพ เคมี หรือทางด้านจุลินทรีย์ต่างๆ เพื่อให้ได้คุณภาพตามกฎหมายที่กำหนด
น้ำเสียคืออะไร วิเคราะห์อย่างไร (Sewage Waste Analysis)
น้ำเสีย (Sewage waste) คืออะไร แล้วเรามีวิธีการวิเคราะห์ Analysis อย่างไรบ้าง