Table of Contents
การจัดการของเสียจากห้องปฏิบัติการ ทำอย่างไร?
ห้องปฏิบัติการทางเคมีมีบทบาทสำคัญในหลายภาคอุตสาหกรรม ตั้งแต่การวิจัย การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงการทดสอบวิเคราะห์
อย่างไรก็ตาม ห้องปฏิบัติการเหล่านี้ยังเป็นแหล่งกำเนิดของของเสียที่มีความอันตรายสูง ทั้งจากสารเคมีที่เป็นพิษและสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพของบุคลากร และชุมชนโดยรอบ
การจัดการของเสียจากห้องปฏิบัติการจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและความยั่งยืน ควบคู่กับการปฏิบัติตามกฎระเบียบและมาตรฐานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วันนี้เราจะมายกตัวอย่างวิธีการจัดการของเสียในแต่ละชนิดกัน
ประเภทของของเสียในห้องปฏิบัติการทางเคมี
ห้องปฏิบัติการทางเคมีผลิตของเสียหลายประเภท ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ตามลักษณะของสารเคมีที่ใช้ เช่น:
- ของเสียอันตราย – เป็นของเสียที่มีสารเคมีที่เป็นพิษหรือมีฤทธิ์รุนแรง เช่น สารประกอบที่มีโลหะหนัก สารกัดกร่อน และสารที่ไวไฟ ของเสียเหล่านี้ต้องได้รับการจัดการอย่างเคร่งครัดเนื่องจากมีผลกระทบรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์
- ของเสียจากการใช้สารเคมีทั่วไป – ของเสียที่เกิดจากการใช้สารเคมีทั่วไปในห้องปฏิบัติการ เช่น สารละลายอินทรีย์ น้ำยาที่ใช้ล้างเครื่องมือ เป็นต้น แม้จะไม่เป็นอันตรายรุนแรงเท่าของเสียประเภทแรก แต่ก็ยังต้องมีการกำจัดอย่างถูกต้องเพื่อไม่ให้เกิดการปนเปื้อนออกสู่สิ่งแวดล้อมภายนอกได้
- ของเสียชีวภาพ – ในกรณีที่ห้องปฏิบัติการมีการทำงานที่เกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิต อาจเกิดของเสียจากตัวอย่างชีวภาพซึ่งต้องการการจัดการที่เหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงการปนเปื้อนและการแพร่กระจายของเชื้อโรค
ขั้นตอนการจัดการของเสียจากห้องปฏิบัติการทางเคมี
การจัดการของเสียอย่างเป็นระบบในห้องปฏิบัติการต้องอาศัยการวางแผนและปฏิบัติตามขั้นตอนที่เหมาะสม โดยมีขั้นตอนหลักดังนี้:
- การคัดแยกของเสียตามประเภท – ของเสียที่มาจากห้องปฏิบัติการควรถูกคัดแยกตามประเภท เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการและกำจัดอย่างเหมาะสม ของเสียอันตรายควรแยกจากของเสียประเภทอื่น ๆ และมีการติดป้ายบอกประเภทของเสียชัดเจน
- การเก็บรวบรวมของเสียอย่างปลอดภัย – ของเสียควรถูกจัดเก็บในภาชนะที่มีการปิดผนึกแน่นหนา เพื่อป้องกันการรั่วไหล การจัดเก็บภาชนะต้องเลือกวัสดุที่ไม่ทำปฏิกิริยากับสารเคมีที่บรรจุ เช่น การเก็บของเสียที่มีฤทธิ์กัดกร่อนในภาชนะที่ทนต่อการกัดกร่อน และต้องวางในพื้นที่ที่มีการระบายอากาศดีเพื่อลดความเสี่ยงของการระเบิดหรือการลุกไหม้
- การกำจัดของเสียตามมาตรฐาน – ของเสียจากห้องปฏิบัติการทางเคมีไม่ควรถูกทิ้งลงในแหล่งน้ำหรือท่อระบายน้ำโดยตรง ควรมีการบำบัดข้างต้นเพื่อลดความเป็นอันตรายลงหรือส่งให้กับบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการกำจัดของเสียอันตราย เพื่อป้องกันการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม และเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับของหน่วยงานที่ควบคุม
ตัวอย่างการจัดการที่เกิดขึ้นในห้องปฏิบัติการ
ตัวอย่างการจัดการที่เกิดขึ้นในห้องปฏิบัติการวิเคราะห์น้ำเสียมีดังนี้
3.1. ของเสียการวิเคราะห์ค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH)
วิธีการจัดการ
- ทำให้มี pH ใกล้เคียง 7 ก่อนกำจัด (Neutralization) โดยเติมกรดหรือเบสจนกว่าจะสมดุล
- บำบัดในระบบน้ำเสียก่อนปล่อยสู่สิ่งแวดล้อม
3.2. ของเสียการวิเคราะห์ค่าซีโอดี (COD)
วิธีการจัดการ
- ของเสียที่มีไดโครเมตต้องเก็บแยกไว้ในถังเก็บสารอันตราย (Hazardous Waste Container) และส่งกำจัดตามข้อกำหนดของกรมโรงงานอุตสาหกรรม
- ห้ามเทลงท่อน้ำทิ้งโดยตรง
3.3. ของเสียการวิเคราะห์ค่าบีโอดี (BOD)
วิธีการจัดการ
- ตัวอย่างที่เหลือจากการวิเคราะห์ควรเก็บรวบรวมแยกจากสารเคมีอื่น
- ทำการบำบัดในระบบบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อย
- การฝึกอบรมและเพิ่มความรู้ให้บุคลากร – การจัดการของเสียที่มีประสิทธิภาพจำเป็นต้องอาศัยบุคลากรที่มีความรู้ความเข้าใจในกระบวนการปฏิบัติงาน การฝึกอบรมอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้บุคลากรตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการของเสีย และสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
มาตรการความปลอดภัยและการป้องกันการปนเปื้อน
การป้องกันการปนเปื้อนในห้องปฏิบัติการทางเคมีมีความสำคัญอย่างยิ่ง ควรดำเนินมาตรการต่าง ๆ เช่น:
- การตรวจสอบอุปกรณ์และเครื่องมือ – ตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดเก็บของเสียให้มีสภาพที่ปลอดภัยและพร้อมใช้งาน
- การควบคุมคุณภาพอากาศ – ใช้ระบบระบายอากาศที่มีประสิทธิภาพในห้องปฏิบัติการเพื่อป้องกันการสะสมของสารเคมีในอากาศ
- การจัดทำแผนฉุกเฉิน – กำหนดขั้นตอนและแผนการรับมือกรณีเกิดการรั่วไหลหรืออุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับของเสียในห้องปฏิบัติการ
สรุป
การจัดการของเสียจากห้องปฏิบัติการทางเคมีเป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ไม่เพียงเพื่อความปลอดภัยของบุคลากร แต่ยังเป็นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ด้วยการคัดแยก จัดเก็บ และกำจัดของเสียอย่างเป็นระบบ ควบคู่ไปกับการฝึกอบรมบุคลากรและการปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวด ห้องปฏิบัติการทางเคมีสามารถลดความเสี่ยงและเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมได้
ห้องปฏิบัติการบริษัท เอส เอส ซี ออยล์ จำกัด ได้ดำเนินการจัดการของเสียอันตรายอย่างถูกต้องเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดความเป็นอันตรายแก่บุคลากรและสิ่งแวดล้อม และหากท่านต้องการตรวจคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่อยู่บริเวณโดยรอบโรงงานหรือบ้านเรือนของท่าน เรามีบริการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อม เช่น คุณภาพน้ำ อย่างครบวงจรสามารถตรวจได้ทั้งคุณภาพน้ำเสีย น้ำประปา น้ำดื่ม เป็นต้น มีบริการเก็บตัวอย่างให้ถึงที่ พร้อมทีมงานคอยให้คำปรึกษา
หากท่านสนใจสามารถติดต่อได้ที่
เบอร์ 062-337-0067
Line ID : @Thaitestlab
E-mail : sscoillab@thailandwastemanagement.com
หลายคนยังสนใจบทความน่ารู้เพิ่มเติม
การจัดการของเสียจากห้องปฏิบัติการ ทำอย่างไรบ้าง?
การจัดการของเสียจากห้องปฏิบัติการจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและความยั่งยืน ควบคู่กับการปฏิบัติตามกฎระเบียบและมาตรฐานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วันนี้เราจะมายกตัวอย่างวิธีการจัดการของเสียในแต่ละชนิดกัน
กระดาษลิตมัส (Litmus Paper) คืออะไร? ใช้งานอย่างไร?
กระดาษลิตมัส (Litmus Paper) เป็นเครื่องมือทางเคมีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการทดสอบความเป็นกรด-เบสของสารละลาย กระดาษลิตมัสมีบทบาทสำคัญในการทำงานในห้องปฏิบัติการ
ปฏิกิริยาออกซิเดชัน (Oxidation Reaction) คืออะไร?
ปฏิกิริยาออกซิเดชัน (Oxidation Reaction) ปฏิกิริยานี้เกี่ยวข้องกับการสูญเสียอิเล็กตรอนของสารหนึ่ง ซึ่งส่งผลให้สารอีกตัวหนึ่งได้รับอิเล็กตรอนและทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีอย่างต่อเนื่อง
วิธีการเช็กคุณภาพน้ำดื่มด้วยตัวเองเบื้องต้น
น้ำดื่มเป็นสิ่งสำคัญต่อการดำรงชีวิตของเรา เราต้องแน่ใจว่าน้ำที่เราดื่มนั้นสะอาดและปลอดภัยต่อสุขภาพ การตรวจสอบคุณภาพน้ำดื่มเบื้องต้นสามารถทำได้ด้วยตัวเองโดยใช้วิธีง่าย ๆ ต่อไปนี้
วิเคราะห์คุณภาพน้ำดื่ม (Drinking Water Analysis)
การตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำดื่ม ไม่ว่าจะเป็นน้ำดื่มจากขวดบรรจุ หรือว่าน้ำประปาที่สามารถนำมาดื่มได้ เพื่อดูคุณสมบัติทางกายภาพ เคมี หรือทางด้านจุลินทรีย์ต่างๆ เพื่อให้ได้คุณภาพตามกฎหมายที่กำหนด
น้ำเสียคืออะไร วิเคราะห์อย่างไร (Sewage Waste Analysis)
น้ำเสีย (Sewage waste) คืออะไร แล้วเรามีวิธีการวิเคราะห์ Analysis อย่างไรบ้าง